เดินทอดน่องล่อง “คลองบางหลวง”

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ W+ ขอพาสาวๆ มาใช้ชีวิตสบาย ย้อนอดีตไปกับความโบราณ ของแหล่งท่องเที่ยวที่หลายท่านคงเคยได้ยินชื่อกันมาบ้างแล้ว “คลองบางหลวง” ซึ่งเป็นคลองตั้งแต่สมัยอดีตแล้วยังคงซึ่งความเก่าแก่อยู่จนถึงปัจจุบันนี้ นอกจากนี้จะยังมี “บ้านศิลปิน” ซึ่งเป็นแหล่งศิลปะสมัยก่อนรวมถึงมีหุ่นละครเล็กที่หาดูกันได้ยากให้ทุกท่านที่ไปได้ชมกัน งั้นตามมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ

ชุมชนริมคลองบางหลวง คือชุมชนเก่าแก่ริมน้ำ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา คลองบางหลวง หรือ คลองบางกอกใหญ่ ซึ่งสมัยก่อนข้าราชการขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายต่อหลายท่านมาจับจองสร้างบ้านกัน อยู่ริมคลอง บางกอกใหญ่ เพราะเป็นบริเวณใกล้เคียงกับพระราชวังกรุงธนบุรี ชาวบ้านจึงเรียกคลองแถบนี้อีก ชื่อหนึ่งว่า “คลองบางข้าหลวง” และเหลือเพียง “คลองบางหลวง” ในที่สุด

คลองบางหลวงทุกวันนี้เป็นที่ตั้งของชุมชนที่เรียกว่า “ชุมชนริมคลองบางหลวง” ปัจจุบันยังเต็มไปด้วยกลิ่น อายในอดีต เราสามารถพบเห็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวบ้านแถบนี้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวรูปทรงเก่าแก่ วัดวาอารามที่แสนสงบร่มเย็น ตลอดทั้งลำคลองมีปลาสวายตัวโตๆ จำนวนมากดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำ เด็กๆ วิ่งเล่น กันสนุกสนาน ส่วนคนเฒ่าคนแก่คอยมองตามและยิ้มด้วยความเอ็นดู ในขณะที่เรือหางยาวสีสวยและเรือเมล์แล่น ผ่านไปมาเกือบตลอดทั้งวัน และนี่ก็คือเสน่ห์และความน่าสนใจของที่นี่ สำหรับการเยี่ยมชม ชุมชนริมคลองบาง หลวง เริ่มจากวัด คูหาสวรรค์ หรือหากมาทางจรัญสนิทวงศ์ซอย 3 เข้ามาสุดซอย และข้ามสะพาน มาก็จะเจอบ้าน เก่าที่นำมาปัดโฉมใหม่เป็นร้านค้า ร้านกาแฟ สำหรับนั่งทานชมวิวริมคลอง เป็นระยะทางเดินสั้นๆ ไปจนถึง บ้านศิลปิน

บ้านศิลปิน

เป็นบ้านเก่าของ “ตระกูลรักสำรวจ” ตระกูลช่างทองเก่าแก่ ซึ่งทายาทรุ่นสุดท้ายได้ขายบ้านหลังนี้ ให้กับคุณชุมพลอักพันธานนท์ เพื่อปรับปรุงให้เป็น สถานที่แสดงงานศิลป์ เป็นที่รวมตัวของของ กลุ่มศิลปินที่รัก งานศิลปะ บ้านศิลปินเป็นอาคารไม้ทรงมะนิลารูปตัวแอลที่สร้างล้อมรอบเจดีย์เก่าซึ่ง เป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง สันนิษฐานว่าเป็นหนึ่งในสี่ของเจดีย์แต่ละทิศที่กำหนดเขตพื้นที่เก่าของวัด กำแพง ด้านบนของตัวอาคารเปิดเป็น แกลเลอรี่ แสดงงานศิลปะทั้งภาพวาดและภาพถ่ายให้ ได้ชมกัน ถือเป็นบ้านไม้แห่งแรกที่ปลุกชีวิตให้ชุมชนคลอง บางหลวงให้กลับมาคึกคักอีกครั้งถือเป็น ไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้

บ้านศิลปินเป็นอาคารไม้ทรงมะนิลา รูปตัวแอล ที่สร้างล้อมรอบเจดีย์เก่าซึ่งเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง สันนิษฐานว่า เป็นหนึ่งในสี่ของเจดีย์แต่ละทิศ ที่กำหนดเขตพื้นที่เก่าของวัดกำแพง ภายหลังอาคารหลังนี้ได้ถูกปรับปรุงใหม่โดยกลุ่มศิลปิน เพื่อเป็นที่รวมตัวของผู้ที่ ทำงานและรักงานศิลปะ โดยยังคงสภาพเก่าของตัวอาคารไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะเจ้าของตั้งใจจะทำทุก อย่างให้กลมกลืนกับชุมชนด้านบนของ ตัวอาคารเปิดเป็นส่วนแสดงงานศิลปะทั้งภาพวาดและภาพถ่ายให้ได้ชมกัน ส่วนด้านล่างแบ่งเป็นพื้นที่ ทำงานศิลปะต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีการทำเครื่อง ประดับรวมอยู่ด้วย

ทุกๆ วันอาทิตย์ ที่นี่จะมีการฝึกอบรมอาชีพการทำเครื่องประดับให้กับผู้ที่สนใจฟรีโดยไม่คิดค่าอบรม ด้านล่างแบ่งเป็นมุมขายของ ที่ระลึกและโปสการ์ด มีมุมร้านกาแฟให้ได้สั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบพร้อม ชมวิวทิวทัศน์ ริมคลอง เรานั่งรับลมที่พัดเอื่อยๆ เย็นสบายมองคนที่อยู่บ้าน ฝั่งตรงข้าม กำลังให้อาหารปลาอย่างเพลิดเพลิน บางช่วงจะมีเรือหางยาวพานักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมาทำความรู้จักกับสถานที่เก่าๆ ในเมืองกรุง คนบนเรือหลายคนยิ้มและโบกมือทักทายให้คนบนฝั่ง เป็นภาพที่น่ารักและช่วยให้ผ่อนคลาย เหมือนที่ตั้งใจไว้แต่ แรกจนแทบลืมดูเวลา กัน เลยทีเดียวอ่านและอิ่มแบบมีสไตล์ นอกจากนี้ที่บ้านศิลปินยังหุ่นละครเล็ก คลองบางหลวง ซึ่งเปิดให้ชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม ชุมชนริมคลองบางหลวงได้ทุกวันประมาณ 9 โมง – 6 โมงเย็น แต่ถ้ามาในวันธรรมดาร้านบ้างร้านปิด
บ้านศิลปินวันจันทร์ – ถึงอังคาร เปิดตั้งแต่ 10.00-18.00 น. , วันพุธ – วันพฤหัส เปิดตั้งแต่ 09.00-18.00 น วันเสาร์ – ถึงอาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 09.00-19.00 น

บ้านศิลปิน และ ตลาดน้ำคลองบางหลวง สามารถเข้ามาเที่ยวชมได้หลากหลายเส้นทางคือ

– เส้นทางที่ 1 คือ เข้ามาทางซอยจรัญสนิทวงศ์ซอย 3 เข้าไปสุดซอยแล้วเดินข้ามสะพานลงไปก็จะถึง “ตลาดน้ำคลองบางหลวง”แล้ว แต่ถ้าจะไป”บ้านศิลปิน” ต้องลงจากสะพานแล้วเดินเลี้ยวซ้าย เดินไปอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะถึง

– เส้นทางที่ 2 คือ เข้ามาทางถนนราชพฤกษ์ ปากซอยจะเป็น”โรงแรมกรีนอินท์” วิ่งเข้าไปในซอยสังเกตป้าย”วัดคูหาสวรรค์วรวิหาร” นำรถไปจอดที่ลานจอดรถของวัดแล้วเดินเลียบคลองไปเรื่อยๆ ก็จะเจอ “ตลาดน้ำคลองบางหลวง”และเดินไปเรื่อยๆ อีกไม่ไกลก็จะเจอ “บ้านศิลปิน”

– เส้นทางที่ 3 คือ เข้ามาทางถนนเพชรเกษม ทั้งซอย 20 และ 28 ซึ่งเข้ามาตามทางก็จะมาบรรจบกับเส้นทางไปสู่”วัดคูหาสวรรค์วรวิหาร” เช่นกัน

– เส้นทางสุดท้ายคือ เหมาเรือจากคลองบางกอกน้อย-คลองบางกอกใหญ่-แม่น้ำเจ้าพระยา มุ่งหน้ามายังที่นี่ได้เลย (ส่วนใหญ่จะเป็นกรุ๊ปท่องเที่ยวทางน้ำทั้งคนไทยและคนต่างชาติ)