Interview

เปิดใจแม่ลูกคู่คิด รักลูกแบบไหนให้ลูกเป็นคนดี

“เราเป็นทั้งแม่ลูก เป็นทั้งเพื่อนสนิท และเป็นเพื่อนคู่ คิดมันเป็นเสน่ห์ของคู่เูรา”
คำอธิบายง่ายๆ แต่ลึกซึ้ง เมื่อเราถามถึงกุญแจสำคัญที่ทำให้ โบว์-ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์ นางเอกหน้า้ หวานจากวิก 7 สี และคณุ แม่พรรณลักษณ์ ปรีชานนท์ภาดล แทบจะไมเ่คยทะเลาะกันเลย

+ “วันนี้ลูกมีความสุขมั้ย?”

คุณแม่ : เป็นคำถามที่จะถามเขาทุกครั้งเวลาไปรับที่โรงเรียนตั้งแต่เ่ขา้อนุบาล เราถามเพื่อให้เ้ขาเล่า่ให้เ้ราฟังว่า่เขาเจออะไรมาบ้า้ง เพื่อนๆ เป็นยังไง เลยทำให้เขาคุยกับเราได้ทุกเรื่อง บางครั้งมีหนุ่มๆ มาคุย เขาก็จะเล่า่ให้ฟ้ง แม่สอนเขาอยู่เู่สมอว่า่ ถ้า้เรื่องไหนที่ลูกไม่กล้าเล่าให้แม่ฟัง แสดงว่านั่นคือสิ่งที่ผิด ให้เขาตัดสินเองและเขาก็จะจำคำนี้มาตลอด

โบว์ : โบว์รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีแม่เลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด มันเป็นเอกลักษณ์เ์ฉพาะตัวของครอบครัวเรา แม่จะใส่ใ่จทุกรายละเอียด 24 ชั่วโมงของแม่เป็นของโบว์และน้องสาว และรู้สึกโชคดีเสมอที่มีแม่คอยรับฟังทำให้เราติด มีเรื่องอะไรจะเก็บไม่ค่อยได้ จะต้องโทรหาแม่ แม่บอกเสมอว่าเวลาลูกสุขแม่ก็สุข เวลาลูกทุกข์แม่ทุกข์กว่า

+ 4 ปีที่ต้องห่างกัน

โบว์ : โบว์สอบชิงทุนไปญี่ปุ่นได้ ตอนนั้นไม่คิดว่าจะไปนะ เห็นเพื่อนไปสอบก็เลยไป ใครถามว่าติดแล้วจะไปไหน โบว์ก็จะตอบหนกั แน่นว่าไม่ไป เพราะตอนนนั้ อยากเรียนจุฬาฯ ช่วงนนั้ พ่อจะมายุทุกวันว่าให้ไป พ่อบอกว่า แม่รักลูกมาก ด้วยความรักมากก็จะทำทุกอย่างให้ พ่อกลัวเราไม่โต พ่อก็อยากให้ไป

คุณแม่ : ก่อนที่เขาจะไปแม่ก็คิดอยู่นานมาก ไม่เคยคิดจะให้ลูกจากเราไปไกลขนาดนี้ เป็นคนห่วงลูก ลูกไปไหนก็ไปด้วยขนาดคนใดคนหนึ่งในบ้านป่วยคนที่เหลือในบ้านจะไปนอนเฝ้าที่โรงพยาบาลกันหมด สุดท้า้ยก็ปรึกษาเพื่อนๆ เราเขาก็บอกอยากให้เราปล่อยให้ลูกไปเปิดหูเูปิดตา ก็เ็ริ่ม ปรึกษาคุณพ่อ พ่อก็เ็ห็นดีด้วยเลยยอมให้เขาไป มาคิดดูตอนนี้แม่ว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องพอเขากลับมา เราเห็นลูกเปลี่ยนไปในทางที่ดี ความคิดเขาเป็นระเบียบและโตขึ้นมาก

โบว์ : ไปเรียนที่ญี่ปุ่นคุยกันบ่อยกว่าอยู่เมืองไทยอีก (หัวเราะ)

คุณแม่ : จะคุย Skype กันตลอด ตอนเขาไปก็บินไปส่ง ไปช่วยจัดห้อง

โบว์ : ถึงจะคุยกันบ่อยแต่โบว์ก็เป็นหนักนะ เพราะจะติดแม่มากปกติไิปไหนมีแีม่มารับมาส่งตลอด กลับบ้า้นก็มีของร่อยๆ ให้กินพออยู่คนเดียว กลับห้องมาไม่เ่จอแม่ ทุกอย่า่งต้องทำเอง ช่วงแรกร้องไห้บ่อยมาก บินกลับมาเจอแม่แค่ 5 ชั่วโมงก็เคยมาแล้วร้องไห้บ่อยมาก บินกลับมาเจอแม่แค่ 5 ชั่วโมงก็เคยมาแล้ว

+กำลังใจสำคัญในการทำงาน

คุณแม่ : การที่ลูกเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง แม่จะสอนให้เขาจริงใจ มีอะไรก็ตรงไปตรงมา รู้ว่าเขาเป็นคนอ่อนโยน เป็นคนที่คิดบวกตลอด เพราะฉะนั้นจึงไม่ค่อยเป็นห่วงเรื่องที่เขาจะติดต่อกับใคร เพราะมีแต่คนเมตตา จะบอกลูกเสมอว่า พวกข่าวต่างๆถ้าอะไรที่ไม่เป็นจริงก็อย่าไปกังวล เพราะว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้นวันหนึ่ง เขาก็จะรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นอย่างไร

โบว์ : โบว์ยังไม่เ่ก่งพอที่จะบิลท์อารมณ์ตัวเอง ได้ซีนอารมณ์ ทุกซีนก็จะมีแม่คอยช่วย จะเรียกแม่ให้มากอดสักพักน้ำตาก็ไหล และโบว์จะพกจดหมายน้อย (ยิ้ม) เป็นจดหมายที่แม่เขียนความรู้สึกของแม่ให้โบว์ จะหยิบมาใช้เวลาฉุกเฉิน ร้องไห้ไม่ได้ก็ค่อยๆ ควักจดหมายน้อยมาอ่าน

โบว์ “แม่สำหรับโบว์เหมือนรถยนต์ เพราะแม่ไปกับเราทุกที่ ไม่ว่าทางจะเป็นยังไงก็อยู่เคียงข้างเสมอ และรถยนต์ก็จะมีระบบความปลอดภัย และเวลารถวิ่งไปเวลาอยู่บนรถก็ทำให้โบว์ได้พัก อยู่กับแม่โบว์รู้สึกปลอดภัยจากทุกๆ สิ่ง”

+ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน

โบว์ : สิ่งที่โบว์เหมือนแม่คงจะเป็นเรื่องความเป็นคนละเอียดความประณตี ในการทำงาน การใช้ชีวิติ เรื่องความสะอาดมาจากคุณแม่ คุณแม่จะเป็นคนเนี้ยบมาก เวลาโบว์ทำความสะอาดห้องที่ญี่ปุ่น จะไม่ใ่ช้ไ้ม้ม็อบจะถูมือแล้วจะใช้ผ้า้แคะตามมุมเก็บของเป็นที่แม่ไม่เคยสอนแต่เราเห็นตัวอย่างจากแม่จนติดเป็นนิสัย

+ภูมิใจที่สุด

โบว์ : โบว์เชื่อว่าไม่มีใครในโลกนี้ทีี้่เกิดมาแล้วจะรู้ว่าการเป็นแม่ที่ดีต้องเป็นยังไง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างแม่ก็เรียนรู้ไปกับโบว์ บางสิ่งบางอย่างแม่อาจไม่ชอบ แต่พอโบว์ได้ลองทำแล้วเล่าให้แม่ฟังแม่ก็พร้อมที่จะเปิดกว้างและรับฟังความคิดเห็นของโบว์ แม่จะให้เกียรติความรู้สึก ให้เกียรติความคิดเห็นของโบว์ และให้ความสำคัญกับสิ่งที่โบว์คิดตลอด ยุคที่โบว์เติบโตกับยุคที่แม่เติบโตมันก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่เปลี่ยนไป แต่แม่ก็จะเปิดกว้างและไม่เคยคิดว่า ความคิดแม่ถูกที่สุด โบว์ภูมิใจมากที่เกิดเป็นลูกแม่

คุณแม่ : ภูมิใิจที่เี่ขาเป็นเด็กดี เป็นเด็กที่น่า่รักเสมอ ไม่เ่คยผิดหวังได้ดั่งใจ ภูมิใจในทุกๆ เรื่องของเขา โดยเฉพาะความคิดของเขา

+เคล็ดลับความรักความเข้าใจของคนต่างวัย

คุณแม่ : ต้องมองซึ่งกันและกันอย่างเข้าใจ ให้โอกาส และให้ความรักเป็นที่ตั้ง สุขของลูกคือสุขของแม่

โบว์ : โบว์เชื่อว่าคนที่อยู่ใกล้กัน ต้องให้เวลา ให้อภัย และให้โอกาส ซึ่งแม่ให้ทั้งสามสิ่งนี้กับโบว์ ไม่ว่า่จะเล่า่อะไรให้คุณแม่ฟังก็ตาม แม่จะฟังก่อน จะไม่มีการตั้งป้อมว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้นทำไมต้องเป็นแบบนี้ เราสองคนมีความคิดเหมือนกันคือ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเราจะปรับตัวเข้าหากัน และการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญเลยทำให้เราเป็นทุกอย่างของกันและกัน

คุณแม่ “แม่มีดวงใจอยู่สองดวงแม่มีแต่ความชื่นใจที่ได้เฝ้าดูการเจริญเติบโตของลูกทุกวันนี้อยู่ได้ก็เพื่อดวงใจทั้งสองดวง”