สาวสวยคนนี้ ‘เธอ’ คือ คลื่นลูกใหม่แห่งวงการเมคอัพอาร์ทิสต์ ที่มาแรงที่สุดในเมืองไทยตอนนี้ และเธอเป็นเมคอัพอาร์ทิสต์ไทยบนเวทีรันเวย์ระดับโลกที่น้อยคนนักจะก้าวไปถึงในอายุน้อยนิดแบบนี้ และเธอยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แบรนด์ความงามชื่อดังของเมืองไทยคู่กับนางเอกแถวหน้า
ในโลกออนไลน์ทุกคนรู้จักเธอในชื่อ Pearypie หญิงสาวที่ชวนผู้หญิงทุกคนให้กล้าที่จะลุกขึ้นมาสนุกกับการแต่งหน้า และกล้าที่จะทำตามความฝัน เช่นเดียวกับเธอ ที่ผลักดันตัวเองจนได้เข้าไปยืนอยู่ในเวทีรันเวย์ระดับโลกในบทบาทของการเป็นผู้ช่วยเมคอัพอาร์ทิสต์ ร่วมทำโชว์สุดยิ่งใหญ่ของประเทศอังกฤษอย่าง London Fashion Week ก่อนที่เธอจะบินกลับไปทำงานต่อที่อังกฤษ W+ มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอถึงเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่มีฝัน พร้อมกับการให้เธอได้อัพเดทเทรนด์บิวตี้ปี 2013 ให้สาวๆ ได้เตรียมความพร้อมต้อนรับความสวยในปีนี้ด้วย
ก้าวแรกของการเดินเข้าสู่โลกแห่งสีสัน
“แพรไม่เคยเรียนแต่งหน้า แต่แพรชอบศิลปะอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขียนคิ้วยังไงเขียนอายไลเนอร์ยังไง รู้แค่ว่าชอบศิลปะมันก็น่าจะทำได้ ช่วงแรกๆ เริ่มจากการทำงานพวกบอดี้เพนต์ พอทำออกมารู้สึกว่างานของเรามันมีชีวิต รู้สึกว่าแตกต่างจากการวาดรูปบนผ้าใบ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แพรชอบการแต่งหน้า ช่วงที่เรียนปริญญาโท เริ่มมองหางานทำ ต้องคิดแล้วว่ากลับมาเมืองไทยจะทำอะไรดี คิดว่าถ้ากลับเมืองไทยยังไม่มีอะไรทำ คงไปฝึกงานตามแมกกาซีนหรือฝึกงานกับน้าเป็ด (อภิชาติ นรเศรษฐาภรณ์) ระหว่างที่หางานก็เริ่มหัดทำ How to สอนแต่งหน้าลงเฟสบุ๊ค (Pearypiemakeupartist) เพื่อโชว์ผลงานสำหรับสมัครงาน เราไม่รู้หรอกว่าการแต่งหน้าของเราถูกหรือผิด เราแค่อยากทำสิ่งที่อยากทำ พอทำไปคนก็เริ่มชอบ ก็ทำมาเรื่อยๆ แล้วก็ทำโฟโต้ชู้ต ทำพอร์ตไปยื่นให้กับเมคอัพอาร์ทิสต์และเมคอัพเอเจนซี่ ตอนนั้นคิดแค่ว่าให้เอาไปช่วยถือแปรงหรืออะไรก็ได้ ช่วงที่แพรใกล้จะกลับไทย Lan Nguyen เมคอัพอาร์ทิสต์ที่เปลี่ยนชีวิตแพรก็โทรให้เราไปช่วย”
ลอนดอน แฟชั่น วีค เบื้องหลังความสำเร็จ
“แพรเริ่มทำ 4 โชว์ก่อน หลังจากนั้นก็ได้ไปทำ 12 โชว์ ตอนนี้เขาบอกแพรว่าทุกซีซั่นให้แพรไปช่วยเขา เขาอยากให้เราเป็น First Assistant ที่เดินทางไปกับเขาตลอดเวลา แพรยังจำความรู้สึกแรกที่เราไปอยู่หลังเวที โชว์แรกที่ทำคือ แต่งหน้าปากแดงธรรมดาแต่เราตื่นเต้นมาก เพราะทุกคนที่อยู่ตรงนั้นมีแต่คนเก่งๆ ระหว่างที่เราทำโชว์อยู่ห้องนี้ผู้ช่วยของ Lan Nguyen ก็เรียกแพรให้ไปอีกห้องซึ่งถือเป็นห้องที่เปลี่ยนชีวิตแพรไปเลยเป็นห้องที่แพรได้แสดงฝีมือจริงๆ โชว์นั้นแพรต้องวาดอายไลเนอร์ 3 เส้น ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ได้ แต่บอกเขาไปว่าเราทำได้ เอาจริงๆ ตอนนั้นลำพังกรีดอายไลเนอร์ตัวเองยังยาก และนึกภาพดูว่าเบื้องหลังมันวุ่นวายมาก ทุกคนรุมนางแบบระหว่างเรากรีดอายไลเนอร์ ช่างผมก็ดึงผมนางแบบ เราก็ต้องทำงานของเรา พอทำเสร็จก็ให้เขาดูว่าแบบนี้หรือเปล่าที่ยูต้องการ แพรยังจำแววตาที่เขามองเราได้มันเป็นแววตาของความภูมิใจว่า เราทำได้ เขาเลยให้เราทำที่เหลือทั้งหมด พอจบโชว์ เขาก็หันมาจับมือขอบคุณที่เรามา ถ้าเราไม่มาเขาก็คงไม่รอด หลังจากนั้นแพรก็กลายเป็นผู้ช่วยที่ทุกคนต้องการ เราก็ภูมิใจนะ จุดเล็กๆ ที่เราทำได้หรือไม่ได้แต่เรากล้าที่จะบอกเขาและบอกกับตัวเองว่า “เราทำได้”
เมคอัพกูรูหน้าใหม่ที่มาแรงที่สุดในวงการบิวตี้
“กลับมาเมืองไทย แพรมีสอนแต่งหน้าทุกอาทิตย์ ก็ยังทำคลิปสอนแต่งหน้าอยู่พยายามสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ ในแฟนเพจ เพราะแพรก็เริ่มจากไม่มีอะไร เริ่มจากสิ่งที่ชอบ และกล้าที่จะลองทำให้มันเต็มที่ อยากให้คนไทยกล้าที่จะแต่งหน้าแปลกๆ บ้าง และอยากให้เปิดกว้างกับสิ่งรอบตัว ที่เมืองไทยทุกคนจะตามเทรนด์ดารา จริงๆ แล้วดาราก็ไปเอามาอีกที ก็อยากให้เห็นว่าศิลปะหรือวัฒนธรรมข้างนอกมันเป็นแรงบันดาลใจได้หมดไม่ว่าจะทำอะไร”
เทรนด์การแต่งหน้าปี 2013
“ปี 2013 จะแต่งหน้าแบบเผยผิว ปกติคนส่วนใหญ่จะลงเมคอัพหลายชั้นมากบางคนโปะแป้งหนามากจนไม่เห็นผิวตัวเอง ปีนี้เทรนด์การแต่งหน้าจะเน้นโชว์ผิวที่สวย เน้นปากสีสัน เช่น สีส้ม สีเบอร์รี่ สีแดง ตาก็จะไม่เป็นบล็อก จะเป็นตาสีธรรมชาติ เน้นขนตา ผิวสวยๆ ลงแป้งน้อยๆ ถ้าเรากลับมาดูที่เมืองไทย หรือโซนเอเชียก็จะเห็นว่า เดี๋ยวนี้เขาเน้นหน้าแวววาว ไม่มีใครจะแปะหน้าแมทช์ เพราะดูมีอายุ เมืองไทยเป็นเมืองร้อนก็ยิ่งเหมาะกับเทรนด์เผยผิวหรือเน้นผิวที่จะมาถึง การแต่งหน้าให้กับคนไทยกับต่างชาติต่างกันเยอะเลยค่ะ อย่างต่างชาติ แค่ลงมอยส์เจอไรเซอร์ ปัดคิ้ว ปัดขนตาเขาก็สวยแล้ว แต่คนไทยไม่เหมือนกัน รูปโครงหน้าก็ไม่ได้แล้ว ต้องมีแก้ไขจุดบกพร่องของใบหน้าด้วย”
แต่งหน้าให้สวยเริ่ด แค่หาตัวเองให้เจอ
“อยู่ที่ว่าคุณค้นพบตัวเองเจอหรือยัง บางคนอยากแต่งหน้าเหมือนเจนนี่ ในแรงเงา แต่คุณไม่ใช่เจนนี่ คุณต้องหาคาแรกเตอร์ตัวเอง ต้องหาจุดเด่นของตัวเอง ทุกคนมีความสวยไม่เหมือนกัน บางคนตาสวย คิ้วดำดกได้รูป บางคนจมูกโด่ง เอาจุดนั้นมาเป็นจุดเด่น ดึงจุดนั้นออกมา แล้วเขาจะสวยเป็นคาแรกเตอร์ของเขา เครื่องสำอางไม่จำเป็นต้องเยอะ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์ สิ่งที่ควรมีก็อย่างเช่น ครีมบำรุงผิวหน้า ครีมล้างหน้า รองพื้นหรือลิปสติก อะไรที่เป็นครีมที่ซึมเข้าผิวต้องเลือกที่คุณภาพดี แต่ถ้าอายแชโดว์ ตามประตูน้ำแพรก็ซื้อ เพราะคิดว่ามันเป็นแป้งๆ แล้วก็ทาแป๊บเดียว จะแต่งหน้าให้สวยอยู่ที่ใจรัก อย่างลิปสติกสีแดงแท่งหนึ่งนำมาปรับใช้ได้หลายอย่าง แพรสามารถนำมาทาคิ้วเป็นคิ้วแดง ปัดขนตาให้เป็นขนตาสีแดง ทาปาก หรือนำมาเป็นทินน์หน้าก็ได้ อยู่ที่คุณประยุกต์ใช้”
ประสบการณ์จากเวทีระดับโลก
“แพรมองโลกกว้างขึ้นเยอะ จากที่เมื่อก่อนคิดว่า การเป็นผู้ช่วยก็แค่ถือแปรง แล้วไงไม่เห็นอยากทำเลย อยากเป็นคนครีเอทงานเอง แต่พอได้เข้าไปจุดนั้นเรารู้เลยว่า กว่าที่เมคอัพหลายท่านจะได้มาถึงจุดนี้เขาทำอะไรมาบ้าง กับการที่เราได้ไปเห็น ทำให้เราผลักดันตัวเองว่าเราต้องเป็นแบบนี้ให้ได้ การที่เราได้มาเป็นแค่ผู้ช่วยมันเป็นอะไรที่โคตรดีแล้ว และเมื่อเราไปทำงานตรงนั้นจะมานั่งงอแงไม่ได้ฝีมือเราอาจจะยังไม่ถึงขั้น แต่ต้องมั่นใจว่าทำได้ การทำงานฝึกทำให้แพรมีความอดทน ยอมแพ้ไม่ได้ ถ้าเรายอมแพ้ งานคนอื่นเจ๊ง โชว์ไม่ได้เป็นของเรา มีคนอีกมากมาย ถ้าเราเป็นคนที่ทำให้โชว์พัง แสดงว่าเราไม่มีประสิทธิภาพในการเป็นคน เพราะเราไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่น เราแคร์แต่ตัวเอง นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่เราได้มา คือการทำงานเป็นทีมเวิร์ก และยังต้องแก้สถานการณ์ตรงหน้า นางแบบบางคนผิวแย่ หรือผิวดำมาก ของที่เขาให้ใช้ไม่เหมาะกับเขา เราต้องทำยังไงให้มันดูเหมาะ ต้องแก้ไขสถานการณ์ด้วยตัวเอง”
การเป็นเมคอัพอาร์ทิสต์ให้อะไรกับคุณบ้าง
“ให้แพรได้รู้ว่า ความฝันของแพรถูกติ๊กไปหลายข้อแล้ว เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าเราอยากเป็นอะไร เราชอบสิ่งไหน แต่พอเราได้รู้ว่าเราอยากเป็นเมคอัพอาร์ทิสต์ ทำให้เรารู้ว่าเราเจอสิ่งที่ตามหามาทั้งชีวิต แพรรู้ว่าแพรชอบอะไร สิ่งไหนที่ทำให้แพรมีความสุขมันก็คุ้มค่าแล้ว”
Did You Know?
คลิปการแต่งหน้าในยูทูปที่เธอชอบดูคือ Michelle Phan เมคอัพอาร์ทิสต์ไอดอลของเธอก็คือ Lan Nguyen และคุณเป็ด-อภิชาติ นรเศรษฐาภรณ์ เครื่องสำอางที่ขาดไม่ได้ อายไลเนอร์ ตอนเด็กๆ เธอมักถูกเพื่อนล้อว่าเป็น กบตาโปน ตอนนี้เธอสนใจเทคนิคการแต่งหน้าแบบไทยๆ เป็นพิเศษ อาทิ การแต่งหน้าโขน หรือการแต่งหน้านางรำ อนาคตฝันอยากจะมีโรงเรียนสอนแต่งหน้า และมีแบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง แพรเคยคิดว่า จะกลับมาเปิดร้านทำขนมเค้กในเมืองไทย สไตล์การแต่งหน้าของเธอคือ เล่นกับเส้นกราฟิก เล่นกับอายไลเนอร์ สีปากแปลกๆ ขนตาเยอะ และมีกากเพชรหน่อยๆ
Her Word
การเป็นเมคอัพอาร์ทิสต์ที่ดี คือเราต้องเปิดโอกาสให้กับตัวเอง ต้องเปิดโอกาสให้กับคนรอบข้าง แพรเห็นบางคนชอบหวงความรู้แพรว่าการที่เรามีอะไรดีแล้วเราแชร์ให้คนอื่น ให้คนอื่นมีความสุขไปด้วยเป็นสิ่งที่ดี และต้องมีอัธยาศัยดี ปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นด้วย
More About Her
แพร-อมตา จิตตะเสนีย์
การศึกษา ปริญญาตรี University of Arts, London, Central Saint Martins สาขา Performance Design and PracticeX
ปริญญาโท Regent’s Business School สาขา Global Management
Facebook www.facebook.com/pearypiemakeupartist
Website www.pearypie.com