มีคนไม่น้อยที่มาปรึกษาฉันเรื่องปัญหาความรัก พวกเขามาพร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้น อาการสับสน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะเลิกก็เสียดายความผูกพัน จะคบต่อก็สงสารตัวเองทรมานนัก ไม่รู้จะเอาใจไปวางที่ไหน
ฉันให้คำปรึกษาไปเป็นรายๆ แต่โดยมากมักจะนิ่งฟังพวกเขาระบายความทุกข์มากกว่าหนึ่งงในปัญหาใหญ่เรื่องความสัมพันธ์คือ เมื่อ เวลาผ่านไปคนที่เรารักกลับไม่ใช่คนเดิมอีกแล้วเธอเล่าว่า เธอรักเขาเหมือนเดิม แต่เขาเปลี่ยนไปอย่างน่าใจหายจากที่เคยเป็นเจ้าหญิง เธอต้องกลายเป็นที่รองรับอารมณ์หงุดหงิดของเขา เธออดทน อดทน และอดทน หากเอาความอดทนของเธอมาแปรเป็นเงินตรา เธอว่าเธอน่าจะเป็นมหาเศรษฐี เธอบอกฉันว่าอะไรที่มองข้ามได้ก็จะมองข้าม เธอไม่อยากเป็นโรคของยุคสมัย คือไม่รู้จักการอดทนอีกแล้ว แม่และพ่อของเธอรักกันน้อยลงทุกวัน แต่เขาก็อยู่กันมาได้กว่า 30 ปี บางทีความรักอาจหายไป ความผูกพันยาวนานที่สุด และหากเราได้ใช้ชีวิตด้วยกันมากพอ ไม่มีอะไรอีกแล้วที่เราจะอด ทนเขาไม่ได้
“ทำไมเธอถึงได้อดทนขนาดนี้ล่ะ”
“เพราะฉันไม่ค่อยคิดมากไงละ่ ฉันคิดว่าเวลาที่เี่ขาทำความผิดนั้นแสนสั้นแต่เวลาที่เรารักกันนั้นช่างยาวนานนัก ”เธอถอนหายใจ ก่อนที่จะพูดต่อว่า
“เวลามองดูเูขา ฉันเห็นบาดแผล เห็นความเครียด และเห็นภาระทั้งหลายที่เขาแบกไว้ฉันคิดว่าเขาพยายามเต็มที่แล้วที่จะเป็นผู้ชายที่ดีขึ้น ถ้าเขาจะนอตหลุดบ้าง ฉันให้อภัยเขาได้”
น่าสนใจ…น่าสนใจ ฉันคิดในใจอยา่งนั้นเี่ธอไม่เ่ลิกกับเขาเพราะความรักที่มากล้นนี่เองเอ๊…แถมด้วยความไม่คิดมากของเธอด้วยนี่นา เธอแค่มาบ่นๆ ให้ฉันฟัง และเธอก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติของเธอชีวิตที่อาจจะสุขบ้าง ทุกข์บ้าง แต่มีเขาในชีวิตเสมอในนามของการเป็นมนุษย์ เราทำผิดได้ทุกวัน และในความรักที่ยาวนาน เราต้องการคนที่ให้อภัยเราได้เสมอ มันไม่ใช่เรื่องการยอมเป็น ‘ของตาย’ แต่เป็นเรื่องของการมองเห็นว่าคนรักของเราไม่ใช่เทวดา เขากำลังลองผิดลองถูกบนเส้นทางชีวิตของเขาเองเช่นกันเราได้ยินเรื่องเล่ามากมายของผู้หญิงที่อดทนเพื่อคนที่เธอรักเธอยอมลดอีโก้ของตัวเองเพื่อที่จะมีพื้นที่ให้กับความรักอย่างไม่มีเงื่อนไข
เธอได้อะไรจากการทำสิ่งเหล่านี้นะฉันสงสัย…..บางทีฉันอาจจะต้องหัดอย่าคิดมากกับชีวิตอันแสนสั้น ความรักเอย…ความรัก ฉันจะรักเธอให้มากที่สุดเท่าที่ใครคนหนึ่งจะสามารถรักเธอได้และความรักของฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแม้ว่าเธอจะเปลี่ยนไปก็ตาม