Shopping

แม่ค้า VS นักช้อป

ขายของให้รวย และช้อปอย่างชาญฉลาดประสบการณ์จริงที่สาวๆ ต้องรู้บนโลกแฟชั่นยังมีพื้นที่ว่างมากพอให้กับสินค้นแฟชั่นที่มีไอเดียโดดเด่นและการตลาดที่เป็นเลิศ โดยเฉพาะโลกออนไลน์ไม่ว่าใครก็เป็นเจ้าของธุรกิจได้ ขึ้นอยู่กับว่าสินค้าใครจะเริ่ดกว่ากันและบนโลกแฟชั่นอีกเช่นกัน ยังมีสินค้าอีกมหาศาลสำหรับนักช้อปที่มีเงินจับจ่าย แต่จะมีสักกี่คนที่รู้จักเลือกของดีในราคาที่เหมาะสมกับตัวเอง โดยที่ยังคงช้อปกระจายได้ทุกวัน แบบกระเป๋าไม่ฉีก

+ 2 บทบาท ทั้งแม่ค้า + นักช้อป

มลธิดา มหาชินะบุญาพัฒน์ เจ้าของแบรนด์ Tida Fashion เฟิร์สพลาซ่า เพชรบุรี 19เป็นแม่ค้า : “กระแสแฟชั่นตอนนี้ ผู้หญิง-ผู้ชายกล้าแต่งตัวมากขึ้น เวลาเลือกเสื้อผ้าเค้าจะเน้นดูราคาสมเหตุสมผลเทรนด์เสื้อผ้าตอนนี้ ข้างในตัวเล็กๆ ข้างนอกมีเบรเซอร์คลุม ใส่ทำงานตอนกลางวัน พอตอนกลางคืนถอดออกไปปาร์ตี้ได้ กระโปรงทรงสั้นๆ สีสันสดใส กางเกงรัดๆ เสื้อผ้าที่ร้านจะออกแนวเซ็กซี่ ปลายปีเสื้อผ้าสไตล์ซีทรูชีฟองบางๆ ผ้าลูกไม้กำลังมา จี้มองว่าแฟชั่นเราจะหยุดนิ่งไม่ได้ ร้านเรามีสินค้าใหม่ทุกวันกว่า 1,000 รายการสิ่งที่น่าจะเติบโตได้อีกในธุรกิจนี้อยู่ที่การกระจายสินค้าไปให้เยอะที่สุด อย่างลูกค้าต่างจังหวัดเรามี Delivery ส่งฟรี ซื้อมากหรือน้อยเราก็ส่ง ซื้อเยอะเราลดให้ ตั้งแต่ 5-10% ด้วยราคาเราลดไม่ได้มาก เพราะเราไม่ได้บวกกำไรเยอะ เวลาคิดแบบเราไม่เน้นว่าเราต้องขายได้คนเดียว แต่ลูกค้าที่รับไปต้องขายได้ด้วย แล้วเราก็รับเปลี่ยนถ้าลูกค้าสนิทกันมาซื้อบ่อยๆ เอาไปขายไม่ดี เราให้เปลี่ยน ตอนนี้เศรษฐกิจแย่คนไม่ค่อยใช้เงิน ก็เลยคิดว่าจะขยายตลาดต่างประเทศดีกว่า”

เป็นนักช้อป : “ชอบซื้อของค่ะ ซื้อบ่อยมาก อาทิตย์นงึ ช้อปที 10-20 ชิ้น การช้อปปิ้งก็เป็นการทำ งานอย่างหนึ่ง เราไปดูเทรนด์ ใครใส่อะไรยังไง ส่วนตัวชอบแบบเข้ารูป เรียบหรู เพราะเราตัวเล็ก ไซซ์ XS-S ส่วนใหญ่เดินเซ็นทรัลเวิลด์ ชอบใส่เสื้อผ้าแบรนด์แปลกๆ ใหม่ๆ บางตัวก็ทำเอง เห็นในหนังสือชอบก็สั่งให้ช่างเย็บเลย แหล่งช้อปที่สองคือ แพลทตินั่ม อยู่ใูกล้ที่ทำงาน ถูกด้วย สิ่งที่ซื้อบ่อยอันดับหนึ่งคือ เสื้อผ้า รองมาคือเครื่องประดับ ต่างหู และกระเป๋า ของชิ้นใหญ่อาจจะเดือนละครั้ง เมื่อก่อนซื้อสัพเพเหระ แบรนด์ฮิตไหนก็ซื้อแต่ตอนนี้โตขึ้นก็มองเป็นการลงทุนมากกว่า จะเน้นแบรนด์ที่สามารถเก็บไว้เพิ่มมูลค่าได้ อย่างเช่น แอร์เมส เป็นแบรนด์ที่ดูเรียบๆ ก็สวยละ สำหรับรองเท้าพิถีพิถันมาก ชอบสุดคือ อีฟแซงต์ วาเลนติโน่ จิมมี่ ชู ชาแนล มีรวมๆ ร้อยกว่าคู่ แต่จี้เป็นคนไม่ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม จะมีบ้างเวลาออกงาน คือ ของ ted baker ของอังกฤษ และไม่ชอบใส่เสื้อผ้าซ้ำ ยกเว้นพวกเสื้อสูทยังมีวนมาใส่บ้างแต่ก่อนออกงานบ่อย แต่ตอนนี้ออกแต่งานวัดทำบุญ จี้คิดว่าตอนนี้ยังโสด ทำงานมาเก็บเงินส่วนหนึ่ง ใช้เองส่วนหนึ่งแฟนก็ยังไม่มีเลยต้องให้รางวัลกับตัวเองด้วยการช้อปปิ้ง”

+ แม่ค้าไอเดียเริ่ด

ต้า-อัจฉรียา จิรายุสเจ้าของแบรนด์ Tareeya ที่หยิบความเป็นไทยผสมผสานความทันสมัยได้อย่างลงตัว “ตอนที่เริ่มต้นทำธุรกิจเรามองว่ายังไม่มีตลาดนี้ในเมืองไทยยังไม่มีใครนำลวดลายไทยๆ แบบนี้มาพิมพ์ลงบนกระเป๋าหรือผ้าพันคอ เราได้ไอเดียมาจากกระเป๋าแฮรอทด้วย เขามีลายรถบัสรถแท็กซี่ แล้วถ้าเราเอาตุ๊กตุ๊กเมืองไทยมาใส่จะน่ารักมั้ย ก็เลยให้แฟนซึ่งเขาจบกราฟิกดีไซน์มาลองออกแบบดู เราลองหลายๆ ลาย มีรถตุ๊กตุ๊กแล้วก็มีขนมหวานไทย ช้างไทย เราดึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยมาออกแบบในมุมมองใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้นแรกๆ เราขายในเฟสบุ๊คก่อน แล้วก็ไปขายตามงานแฟร์ งาน BIG+BIH, King Power และก็ Loft ผลตอบรับดีมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษา เวลาไปออกงานจะมีทั้งคนไทยที่ชอบอะไรไทยๆ แล้วก็ชาวต่างชาติ อย่างลายตุ๊กตุ๊กเป็นที่ชื่นชอบมาก เคยออกแบบคอลเลคชั่นพิเศษผ้าพันคอให้ทาง ททท. ใช้แจกลูกค้า VIP เวลาไปเวิร์คช็อปต่างประเทศด้วยค่ะไอเดียดีแล้ว คุณภาพของสินค้าก็สำคัญ เราจะเลือกใช้ผ้าแคนวาสทเี่คลือบมาแล้วอย่า่งดีจึงกันน้ำได้

หรือจะเป็นผ้า้แคนวาสที่ไม่เคลือบมาทำ เป็นหมวก ผ้าพันคอ สินค้าทุกชิ้นจะต้องมีความทนทาน สีที่ใีช้ก็เ็กรดเอ สีไีม่ตก คอนเซ็ปต์ของเราคือ อยากให้เ้ป็นสินค้าไทยที่ใช้ได้ทุกวันการทำธุรกิจในยุคนี้ง่ายมาก เพราะมีโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางให้เข้าถึงง่าย ใครอยากทำธุรกิจก็ลองทำในนี้ดูก่อนก็ได้ หลักสำคัญคือ จะต้องหาคาแร็กเตอร์ของตัวเองให้แตกต่างและชัดเจนและเราต้องเข้าถึงลูกค้า อย่างการไปออกงานแฟร์ต่างๆ ก็เป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าของเราไปในตัว ได้อธิบายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งมันก็มีประโยชน์กับการที่เราจะออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค”

+ นักช้อปชาญฉลาด

น้ำผึ้ง-มธุนาฏ ซอโสตถิกุล ทายาทห้างซีคอนสแควร์ เจ้าของแบรนด์ MATUNART Designs สาวนักช้อปที่สนุกกับการช้อปปิ้งแบบประหยัดแต่ได้ของสวยและดีเสมอ “ผึ้งยังไม่เคยมีพฤติกรรมการช้อปจนทำให้ตัวเองเดือดร้อนนะจะมีก็แค่ขำๆ เช่น ผึ้งจะชอบไปช้อปปิ้งกับเพื่อนคนหนึ่งเวลาไทยดีไซเนอร์เซลส์ และทุกครั้งที่ไปด้วยกันจะช้อปจนลืมเวลาห้างปิดแล้วก็หาทางออกไม่เจอ เดินขึ้นลงลิฟต์กันมั่วไปหมด หรืออย่างเวลาไปเที่ยวต่างประเทศเดินหิ้วถุงจนแขนเจ็บ ถุงขาดก็เคยเจอเพื่อนบอกว่า ผึ้งเป็นโรคจิต ไม่ว่าจะเดินเข้าร้านไหนก็ต้องได้ของออกมา ก็จริงนะ ผึ้งสามารถเลือกของที่สวยและเข้ากับเราในร้านนั้นออกมาได้ คงเพราะผึ้งเป็นคนที่แต่งตัวได้หลายแนว ทำให้เลือกของให้ตัวเองได้เยอะผึ้งจะไม่ติดเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพงๆ ถ้าเป็นแบรนด์ก็แบรนด์ถูกๆ ส่วนใหญ่จะซื้อแพลทตินั่ม เสื้อผ้าแบรนด์เนมจะซื้อตอนเซลส์เท่านั้น เป็นความท้าทายของผึ้งเลยเวลาไปคุ้ยกองเสื้อผ้าแล้วเราหาเสื้อที่สวยราคาถูกกลับบ้านได้ เป็นอะไรที่สนุกและรู้สึกฉลาดที่หาของดีในราคาโอเคได้

เวลาซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า จะดูดีไซน์ก่อน จากนั้นก็ดูว่าใส่แล้วเข้ากับเรามั้ย ราคาเหมาะสมมั้ย ถ้าชอบจริงๆ แล้วราคามันสูง ก็จะคิดนานเลยว่า เรามีแบบนี้เยอะหรือยัง ซื้อไปจะใช้ได้บ่อยมั้ย อาจจะดูว่าผึ้งเป็นคนช้อปเยอะแต่เวลาช้อปจะคิดเยอะอย่างกระเป๋ากว่าจะซื้อได้ต้องดูคัตติ้งเนี้ยบๆ และดูดีไซน์ที่คลาสสิกใช้ได้นาน ซื้อทีต้องให้คุ้มราคาช้อปปิ้งให้เป็นต้องมีสติ คือ เราต้องเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องไปตามใคร ไม่ใช่เห็นเพื่อนใช้แบรนด์เนมแล้วเราต้องใช้ตาม ต้องดูกำลังซื้อของเราด้วย ถ้าเราซื้อแบรนด์เนมทุกอย่างตั้งแต่หัวจดเท้ามันง่ายมากเลย แปลว่าเราแต่งตัวไม่เก่งเพราะเราใช้ของที่สวยอยู่แล้ว แต่ถ้าจะบอกว่าเราแต่งตัวเก่ง จะต้องเลือกของที่มันไม่แพงแล้วเอามาอยู่ด้วยกันทั้งหมดแล้วออกมาดูดี”